ในเดือนพฤศจิกายน ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นไปถึงระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ ขณะที่ราคาเงินมีการเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ยังไม่ถึงระดับสูงสุด
การขึ้นของทองคำ
โดยปกติแล้ว ราคาทองคำมักจะสวนทางกับอัตราดอกเบี้ย เมื่อผู้ค้าพันธบัตรคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงมาก ทองคำมักจะขึ้นราคา แต่เมื่อคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงน้อยลงหรือจะมีการขึ้นดอกเบี้ยมากขึ้น ราคาทองคำมักจะลดลง ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แม้ว่าฟิวเจอร์สของกองทุนรัฐบาลกลางจะลดลงจากการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะลดลงหลายครั้งในปี 2024 แต่ราคาทองคำยังคงเพิ่มขึ้น
นักลงทุนถึงคาดว่าการลดอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้น 6 ครั้ง แต่ราคาทองกลับขึ้น? สาเหตุอาจเป็นเพราะมีนักลงทุนรายใหญ่หลายรายที่ถือสถานะการซื้อออปชั่นคอลด์ที่มีราคาสูง อาจสูงถึง 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นการป้องกันความเสี่ยงจากการที่นักลงทุนในตลาดพันธบัตรยังไม่ลดอัตราดอกเบี้ย จะเกิดขึ้นได้มาก หรือเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนทางภูมิศาสตร์ที่ทีความรุนแรงขึ้น
เงินตามทัน
ในความเป็นจริง การขึ้นของราคาทองคำยังไม่ได้แปลงเป็นการขึ้นของราคาเงิน ซึ่งอาจชี้ว่าการขึ้นของราคาทองคำอาจสูงเกินไป หรือราคาเงินยังขึ้นได้อีก
เงินอาจจะขึ้นมากกว่าทองคำจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน ราคาทองคำ 1 ออนซ์สามารถซื้อเงิน 90 ออนซ์ได้ ในขณะที่ในปี 2011 ราคาทองคำ 1 ออนซ์สามารถซื้อเงินได้เพียง 30 ออนซ์ ราคาของเงินเคยสูงกว่าราคาทองคำในปัจจุบันถึงสองเท่า
การใช้เงินในอุตสาหกรรมมีความหลากหลายมากกว่าทองคำ และอาจได้รับผลกระทบจากการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัว รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจากนโยบายการคุมเข้มของธนาคารกลาง เงินอาจเผชิญกับความเสี่ยงที่มากกว่าทองคำ