ทุเรียนไทยเจอ 'สงครามราคา' ในจีน มูลค่าลดจนไม่ใช่ 'ผลไม้ชั้นสูง' อีกต่อไป

ทุเรียนไทยเจอ สงครามราคา ในจีน มูลค่าลดจนไม่ใช่ ผลไม้ชั้นสูง อีกต่อไป(图1)


จากการรายงานของสื่อจีน 'เอ้อร์สืออี้ไฉจิง' (21财经) หรือ  21st Century Business Herald ระบุในรายงานเมื่อวันที่ 16 กันยายน ว่า ราคาทุเรียนในจีนปรับลงมาอยู่ในระดับ "ลดราคาขาย" โดยลดราคาเหลือ 10 หยวนต่อกิโลกรัม


'เอ้อร์สืออี้ไฉจิง' ชี้ว่า ราคาทุเรียนเริ่มลดลงเพราะเมื่อไม่นานมานี้ ปริมาณทุเรียนทั้งหมดจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย เวียดนาม และมาเลเซีย ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในตลาดจีน ส่งผลให้เกิดการแข่งขันในตลาดก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และสงครามราคาในฝั่งค้าปลีกก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง


'สงครามราคา' หรือ 'เจี้ยเก๋อจ้าน'(价格战)  หมายถึงการลดราคาอย่างหนักของคู่ค้าเพื่อตัดราคาซึ่งกันและกัน แม้ว่าการลดราคาจนำมาซึ่งการขาดทุน แต่คู่แข่งจะต้องทำเพื่อแย่งชิงลูกค้าในระยะยาว และเพื่อทำลายฐานลูกค้าของคู่แข่ง สงครามการค้าแบบนี้กำลังเกิดขึ้นทั่วไปในภาคค้าปลีกในจีน ตั้งแต่ ชานมไปจนถึงรถยนต์


'เอ้อร์สืออี้ไฉจิง' รายงานว่า ในเมืองจี่หนาน มณฑลซานตง ราคาทุเรียนอยู่ที่ 19.9 หยวนถึง 21.9 หยวนต่อครึ่งกิโลกรัม ในซูเปอร์มาร์เก็ต RT-Mart (大润发) ในท้องถิ่น ราคาทุเรียนหมอนทองอยู่ที่ 23.9 หยวนต่อครึ่งกิโลกรัม ซึ่งลดลงประมาณ 6 หยวนจากช่วงเดียวกันของเดือนที่แล้ว ทุเรียนหมอนทองที่ร้านของสดเหอหม่า (盒马鲜生) ขายก็มีราคาเท่ากับซูเปอร์มาร์เก็ต RT-Mart เช่นกัน


ลักษณะของการทำสงครามราคาทุเรียนเกิดขึ้นอย่างชัดเจน เช่น ตามรายงานของ 'ข่าวค่ำฉีหลู่' (齐鲁晚报) นักข่าวคนหนึ่งเพิ่งเห็นทุเรียนเจ็ดถึงแปดกล่องวางอยู่ริมถนนในร้านขายผลไม้แห่งหนึ่งในเมืองจี่หนาน และลำโพงในร้านก็เล่นเพลงประกาศขาย "ทุเรียนราคา 19.9 หยวนต่อครึ่งกิโลกรัม"


แต่ในเวลาเดียวกัน จากการรายงานของ 'สำนักข่าวจี๋มู่' (极目新闻报) เมื่อค่ำวันที่ 7 กันยายน หน้าร้านผลไม้ที่เพิ่งเปิดใหม่บนถนนหยางหยวนหนาน ในเขตอู่ชาง เมือง อู่ฮั่น พบว่าทุเรียนหมอนทองถูกกดราคาลงไปเหลือเพียง "9.9 หยวนต่อครึ่งกิโลกรัม" ดึงดูดให้ประชาชนจำนวนมากมาต่อแถวซื้อ ลักษณะแบบนี้คือการกดราคาต่ำกว่าความเป็นจริง เพื่อทำสงครามราคา


เจ้าของร้านบอกว่า เว่าปัจจุบันพ่อค้าผลไม้ในประเทศจีนได้เพิ่มปริมาณการนำเข้าทุเรียนและเร่งความเร็วในการขนส่งผลไม้ ทำให้ทุเรียนไม่ใช่ "ผลไม้ชั้นสูง" เหมือนในอดีตอีกต่อไป แต่ค่อยๆ กลายเป็นผลไม้ที่ประชาชนสามารถซื้อหาได้


จากสถานการณ์การทำสงครามราคาที่เกิดขึ้นในจีนรวมถึงปากคำของผู้ค้า ทำให้วิเคราะห์ได้ว่า ในช่วงแรกสงครามราคาอาจยังไม่มีผลต่อราคาทุเรียนที่ส่งออกจากไทย แต่จะมีผลต่อราคาทุเรียนไทยที่ผู้ค้าปลีกนำไปขายตัดราคากัน


ในเบื้องต้น ทุเรียนส่งออกจากไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังมีปริมาณมากในจีน เพราะมีความต้องการสูง แต่เพราะการทำสงครามราคาทำให้ราคาทุเรียนลดลงเรื่อยๆ อีกทั้งการนำเข้าจากประเทศอื่นๆ รวมถึงการที่จีนผลิตทุเรียนเองได้มากขึ้น (ดูรายงานเรื่อง "จีนจะไม่ง้อทุเรียนไทย ปลูกเองขายเองได้แล้วจนราคาดิ่ง 90% "แล้วไทยจะขายใคร?"" ) ทำให้ราคามีแนวโน้มที่จะลดลงมากกว่านี้โดยมีตัวเร่งคือสงครามราคา เราจึงต้องจับตากันต่อไปว่า มันจะส่งผลในระยะยาวต่อการส่งออกทุเรียนไทยหรือไม่

ที่มาของข้อมูล : https://www.thebetter.co.th/news/world/21842