ลำไยอยู่ในตลาดภาคเหนือของประเทศไทย โดยมีผลผลิตเกือบ 1 ล้านตัน

ลำไยอยู่ในตลาดภาคเหนือของประเทศไทย โดยมีผลผลิตเกือบ 1 ล้านตัน(图1)


ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป ลำไยจาก 8 จังหวัดทางภาคเหนือของประเทศไทย (เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย พะเยา ลำปาง ตาก พระนาง และน้ำ) จะเริ่มออกสู่ตลาดแล้ว คิดเป็นสัดส่วน 70-80% ของการผลิต


การสำรวจข้อมูลผลไม้เศรษฐกิจภาคเหนือ ครั้งที่ 2 ร่วมกันจัดทำโดยกลุ่มพัฒนาระบบข้อมูลและโลจิสติกส์ภาคเหนือ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ประเทศไทย พบว่าพื้นที่ปลูกลำไยใน 8 จังหวัดภาคเหนือ มีจำนวน 1,254,937 ไร่ (1 ไร่ = 2.4 เอเคอร์) ลดลง 14,407 ไร่ (ลดลง 1.13%) จากปีที่แล้ว สาเหตุหลักคือเกษตรกรลดต้นลำไยที่มีอายุและให้ผลผลิตต่ำ และปลูกพืชอื่นๆ เช่น ยางพารา ทุเรียน มะม่วง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ การผลิตโดยรวมอยู่ที่ 978,974 ตัน เพิ่มขึ้น 29,501 ตัน (เพิ่มขึ้น 3%) จากปีที่แล้ว ฤดูการผลิตลำไยเริ่มตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายนถึงกันยายน โดยมีผลผลิตสูงสุดในเดือนสิงหาคมประมาณ 366,273 ตัน คิดเป็น 37% ของผลผลิตทั้งหมด


โดยผลผลิตลำไยในฤดูฝนปี 2567 อยู่ที่ 637,501 ตัน เพิ่มขึ้น 30,601 ตัน (เพิ่มขึ้น 5%) จากปีที่แล้ว เนื่องจากราคาลำไยดีขึ้นในปีที่แล้ว ซึ่งสนับสนุนให้เกษตรกรจัดการสวนผลไม้อย่างระมัดระวัง และใช้โพแทสเซียมคลอเรตในการออกดอก แม้ว่าอากาศร้อนในเดือนมีนาคมและเมษายน 2567 ส่งผลให้ต้นลำไยขาดน้ำและผลไม้ลดลงในบางพื้นที่ แต่ผลผลิตโดยรวมยังคงเพิ่มขึ้นเนื่องจากการออกดอกและติดผลมากกว่าปีที่แล้ว ผลผลิตลำไยในฤดูไม่ฝนอยู่ที่ 341,473 ตัน น้อยกว่าปีที่แล้ว 1,100 ตัน (ลดลง 0.32%) สาเหตุหลักที่ทำให้ผลผลิตลดลงเนื่องมาจากความแห้งแล้งและอากาศร้อนทำให้ต้นลำไยมีการเจริญเติบโตไม่ดีในบางพื้นที่ ทำให้ไม่สามารถใช้โพแทสเซียมคลอเรตในการออกดอกได้


ณ เดือนพฤษภาคม 2567 ลำไยนอกฤดูฝนออกสู่ตลาดใน 8 จังหวัดภาคเหนือ (ลำไยนอกฤดูฝนออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนพฤษภาคมของปีถัดไปและเดือนตุลาคมถึงธันวาคม) ตามเกรด พวงลำไยสด เกรด AA กก.ละ 25 บาท ผลหลวม เกรด AA กก.ละ 22 บาท เกรด A กก.ละ 15 บาท เกรด B กก.ละ 10 บาท และเกรด C กก.ละ 3 บาท กก. เนื่องจากการจัดการอย่างรอบคอบของเกษตรกรทำให้คุณภาพลำไยดีขึ้น คาดว่าราคาลำไยจะยังคงทรงตัวต่อไปเมื่อการเก็บเกี่ยวลำไยในช่วงฤดูฝนเริ่มในเดือนมิถุนายน 2567 ตลาดส่งออกหลักของลำไยจากภาคเหนือของประเทศไทย ได้แก่ จีน เวียดนาม และอินโดนีเซีย แม้ว่าตลาดจีนจะเปิดอีกครั้งแล้ว แต่ยังคงมีมาตรการคัดกรองโรคและแมลงศัตรูพืชอย่างเข้มงวดที่ประตูนำเข้า


ความต้องการผลิตภัณฑ์ลำไยจากบริษัทไทยส่วนใหญ่กระจุกตัวในการแปรรูปเป็นลำไยแห้งแกะเปลือก เนื้อลำไยแห้งสีทอง ลำไยเข้มข้น และลำไยกระป๋อง รวมเป็นปริมาณรวม 480,725 ตัน การบริโภคผลไม้สดในประเทศของประเทศไทยคาดว่าจะอยู่ที่ 60,724 ตัน และการส่งออกผลไม้สดคาดว่าจะอยู่ที่ 96,053 ตัน การจดทะเบียนแบบรวมศูนย์ในเดือนสิงหาคมอาจส่งผลกระทบต่อราคาลำไย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดทำแผนการจัดการและการเชื่อมโยงตลาดเพื่อรองรับช่วงการจดทะเบียนแบบรวมศูนย์ในเดือนสิงหาคม มาตรการ ได้แก่ จำหน่ายผลไม้สดผ่านช่องทางต่างๆ เช่น โมเดิร์นเทรด เครือข่ายสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน ธนาคารเกษตร บริการไปรษณีย์ และตลาดออนไลน์ โดยภาครัฐจะสนับสนุนค่าธรรมเนียมการบริหาร กิโลกรัมละ 5 บาท แก่สหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการจำหน่ายลำไย และจัดตั้งกองทุนสหกรณ์พัฒนาเพื่อรวบรวมผลิตภัณฑ์ลำไย นอกจากนี้ รัฐบาลยังจะจัดให้มีมาตรการสนับสนุนต่างๆ แก่ผู้ปลูกลำไย รวมถึงการอุดหนุนดอกเบี้ยอีกด้วย


ที่มาของข้อมูล:guojiguoshu