นางแอปเปิลปาตลา รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม สั่งคณะกรรมการน้ำตาลให้ความสำคัญกับราคาน้ำตาลในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด
เนื่องจากราคาน้ำตาลโลกลดลง 16.67% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 คาดว่าราคาน้ำตาลโลกจะไม่เกิน 0.21 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปอนด์ในปี 2567 โดยมีสาเหตุหลักมาจาก
แรงกดดันสต๊อกน้ำตาลสูงเกินไปและอาจส่งผลให้ราคาอ้อยในประเทศเฉลี่ยอยู่ที่ 1,200 บาทต่อตัน
นางสาวแอปเปิลปาตลา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการน้ำตาลอ้อยต้องจับตาสถานการณ์ราคาน้ำตาลทรายโลกอย่างใกล้ชิด และกังวลว่าราคาน้ำตาลทรายโลกอาจส่งผลกระทบต่อราคาน้ำตาลทรายในประเทศ
ราคาน้ำตาลฤดูกาล 2567/2568 ราคาน้ำตาลเฉลี่ยทั่วโลกในปัจจุบันอยู่ที่ 0.20 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปอนด์ ลดลง 16.67% จาก 0.24 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปอนด์ในปี 2566
เนื่องจากมีสินค้าคงคลังจำนวนมากทั่วโลก บราซิลซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดของโลก จึงยังคงเพิ่มการผลิตน้ำตาลอย่างต่อเนื่อง และส่วนแบ่งการผลิตน้ำตาลทั่วโลกก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ดีขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้การผลิตน้ำตาลของไทยในฤดูกาล 2566/2567 อยู่ที่ 881 ตัน เพิ่มขึ้น 12.80% จากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 7.81 ล้านตัน
ส่วนแนวโน้มราคาน้ำตาลโลกในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 ซึ่งจะไม่เกิน 0.21 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปอนด์ ปัจจัยหนึ่งคือบราซิลจะผลิตน้ำตาลเพิ่มขึ้นหาก
หากอินเดียไม่ปรับนโยบายอนุญาตให้ส่งออกน้ำตาล จะทำให้สต็อกน้ำตาลในตลาดโลกเพิ่มขึ้นอีก ประเทศไทยคาดว่าจะผลิตอ้อยได้ในฤดูกาล 2024/2025
การผลิตจะอยู่ที่ 92 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 11.96% จากฤดูกาลที่แล้ว 82.17 ล้านตัน
เลขาธิการคณะกรรมการซูโครส กล่าวว่า คณะกรรมการซูโครสได้วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อคำนวณราคาน้ำตาลในประเทศในฤดูกาล 2567/2568 หากน้ำตาลโลก
หากราคายังคงอยู่ที่ 0.21 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปอนด์ ราคาอ้อยในประเทศจะอยู่ที่ 1,200 บาทต่อตัน ลดลง 15.49% เมื่อเทียบกับฤดูกาลที่แล้ว และ
ราคาอ้อยฤดูกาลที่แล้วทำสถิติสูงสุดที่ 1,420 บาทต่อตัน
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่มีบทบาทในการคำนวณราคาอ้อยในประเทศ และคณะกรรมการน้ำตาลมีแผนจะเพิ่มการผลิตในฤดูกาล 2567/2568
คุณภาพการผลิตเพื่อให้ชาวไร่อ้อยได้รับผลผลิตที่ดีและช่วยให้โรงงานได้รับน้ำตาลทรายขาวคุณภาพสูงซึ่งจะช่วยเพิ่มราคาน้ำตาลในอนาคตและช่วยเพิ่ม
รายได้ของเกษตรกร