เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ นักวิเคราะห์จาก Bank of America (BofA) คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจเริ่มอ่อนตัวลงในช่วงต้นปี 2025 โดย Michael Hartnett และทีมงานระบุว่า ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา อัตราผลตอบแทนของตลาดหุ้นหลายประเทศสูงกว่า S&P 500 อีกทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีทั้ง "Big Seven" ของสหรัฐฯ อาจไม่สามารถเป็นแรงสนับสนุนระยะยาวได้อีกต่อไป นอกจากนี้ เรื่องราวเกี่ยวกับความได้เปรียบเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังลดความน่าสนใจลง รวมถึงนักลงทุนคาดการณ์ว่าเสถียรภาพด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางและยูเครนอาจดีขึ้น
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ตามเวลาฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ นักวิเคราะห์จาก Bank of America (BofA) คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจอ่อนตัวลงในช่วงต้นปี 2025 โดย Michael Hartnett และทีมงานระบุว่า ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมา ผลตอบแทนของตลาดหุ้นหลายประเทศสูงกว่า S&P 500 อีกทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีทั้ง "Big Seven" ของสหรัฐฯ อาจไม่สามารถเป็นแรงสนับสนุนระยะยาวได้อีกต่อไป นอกจากนี้ แนวคิดเกี่ยวกับความได้เปรียบเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังลดความแข็งแกร่งลง และนักลงทุนคาดการณ์ว่าสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางและยูเครนอาจมีเสถียรภาพมากขึ้น
● ความขัดแย้งทางการค้าและเทคโนโลยีระหว่างจีน-สหรัฐฯ จะไม่รุนแรงขึ้น : BofA เชื่อว่าสงครามการค้าและเทคโนโลยีระหว่างสองประเทศจะไม่ทวีความรุนแรง ซึ่งจะส่งผลดีต่อตลาดหุ้นจีน
● ETF กลุ่มอินเทอร์เน็ตของจีนดึงดูดเงินทุนจำนวนมาก : KraneShares KWEB ซึ่งเป็น ETF ที่เน้นหุ้นอินเทอร์เน็ตจีน มีเงินทุนไหลเข้าอย่างต่อเนื่องติดต่อกัน 3 วัน โดยในวันเดียวมีเงินไหลเข้าสุทธิ 287 ล้านดอลลาร์ และในช่วงสามวันรวมกันมีเงินไหลเข้าถึง 363.2 ล้านดอลลาร์
● อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อาจลดลงต่ำกว่า 4% : BofA คาดการณ์ว่าหากโดนัลด์ ทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีและมีมาตรการควบคุมรายจ่ายของรัฐบาล ลดการเติบโตของหนี้ และดำเนินนโยบายลดภาษี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอาจปรับตัวลดลง
● นักลงทุนมีแนวโน้มหลีกเลี่ยงความเสี่ยงมากขึ้น : ข้อมูลกระแสเงินทุน ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 กุมภาพันธ์ แสดงให้เห็นว่า
○ กองทุนตลาดเงินได้รับเงินไหลเข้าสูงถึง 46.8 พันล้านดอลลาร์
○ กองทุนตราสารหนี้มีเงินไหลเข้า 16.6 พันล้านดอลลาร์
○ ในขณะที่กองทุนหุ้นมีเงินไหลออก 600 ล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ ทีมของ Hartnett เตือนว่า หากมีการเลือกตั้งในเยอรมนีหรือหากการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครนเริ่มต้นขึ้น นักลงทุนอาจพากันขายทำกำไรในตลาดหุ้นยุโรป