ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศร่วงลงอย่างมาก!

ข่าวพาดหัวข่าวประเทศไทย ตามรายงานของสื่อไทย เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากค่าเงินบาทแข็งค่ากว่า 7% ทำให้ราคาทองคำในประเทศไทยดิ่งลงทุกบาท (หน่วยวัดทองไทย 1 บาท มีค่าประมาณเท่ากัน) เหลือ 15.16g) ลดลงกว่า 2,000 บาท สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำไทยชี้ว่าหากเงินบาทแข็งค่าต่อไป ราคาทองคำในประเทศของไทยก็จะลดลงอีก

จิดี ประธานสมาคมค้าทองคำไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันราคาทองคำโลกอยู่ที่ 2,520 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ (ประมาณ 28.35 กรัม) จากผลกระทบค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ทำให้ราคาทองคำในประเทศของไทยมีแนวโน้มตรงกันข้ามกับโลหะมีค่าในตลาดโลก ราคา ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม ราคาทองคำในประเทศไทยลดลงบาทละ 100-40,050 บาท

ฮั่วเซ่งเฮง ซึ่งเป็นร้านทองในท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย ชี้ให้เห็นว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นก็คือค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ลดลง สาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงก็คือผลการดำเนินงานที่ย่ำแย่ของชุดข้อมูลเศรษฐกิจที่เพิ่งเผยแพร่โดยสหรัฐอเมริกา ตัวอย่างเช่น ตัวชี้วัดสำคัญ เช่น อัตราการเติบโตของ GDP ข้อมูลการจ้างงาน และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ไม่เป็นไปตามนั้น ความคาดหวังของตลาด นอกจากนี้ ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งคือ รัสเซียเตรียมซื้อเงินตราต่างประเทศและทองคำมูลค่ากว่า 1.98 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ฮั่วเซ่งเฮงคาดว่าหากธนาคารกลางสหรัฐลดอัตราดอกเบี้ยลง 25-50 จุดเป็น 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 18 กันยายน ราคาทองคำทั่วโลกจะยังคงเพิ่มขึ้นต่อไป

กิดดี้กล่าวว่าหากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงอ่อนค่าต่อไป ธนาคารกลางสหรัฐจะเลือกลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างมาก ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และเงินบาทแข็งค่าขึ้น ในสถานการณ์เช่นนี้ ราคาทองคำในประเทศของไทยจะยังคงถูกดึงลงต่อไป ขอแนะนำให้นักลงทุนสะสมโลหะมีค่าก่อนการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ 18 ของเดือนนี้ เนื่องจากราคาในขณะนี้อยู่ในระดับต่ำ